Local Cache

บทความนี้จะแนะนำการใช้งานระบบ Local Cache เพื่อเพิ่มความเร็วในการใช้งานสำหรับเครื่องลูก ในแต่ละประเภท

1. SSD Local Cache จะใช้ SSD ในเครื่องลูกทำงานเป็น Cache จะเป็น SATA หรือ M.2 ก็ได้ แนะนำขนาด SSD 250 GB ขึ้นไป

(หากใช้งานโหมดนี้ ข้อมูล ใน SSD จะหายทั้งหมด)

(หากใส่ SSD เครื่องลูกไหน ก็จะทำงานแค่เครื่องนั้น ๆ หากต้องการใช้งานทุกเครื่องลูก ก็ต้องใส่ SSD ให้ครบทุกเครื่องลูก)

2. Ram Cache จะแบ่ง Ram ในเครื่องลูกบางส่วนมาทำเป็น Cache ข้อดีคือมีความเร็วสูงที่สุด ข้อเสียคือความจุน้อยทำให้ไม่ครอบคลุมการใช้งานทั้งหมด

3. Disable Cache ไม่มีการใช้งาน Cache แต่อย่างใด จะใช้ Speed จาก LAN ที่มีล้วน ๆ (ไม่แนะนำ)

ปัจจุบันจะแนะให้ใช้ SSD Local Cache เนื่องจากตอนนี้ Internet ความเร็วสูงมาก 1000 Mbps หากไม่มี SSD Local Cache เข้ามาช่วย เครื่องลูกจะใช้งาน Internet ในความเร็วที่มี 1000 Mbps ได้ไม่เต็มที่ ประกอบกับเกมยุคใหม่เริ่มมีขนาดใหญ่มาก 100 GB ขึ้นไป การใช้ SSD Local Cache จะลดอาการกระตุกระหว่างการเล่นเกมหรือการโหลดเข้าเกมช้าได้ ทำให้ลูกค้ารู้สึกเล่นเกมได้ไหลลื่นดีขึ้น ประกอบกับราคา SSD ปัจจุบันไม่แพงมากแล้ว SSD 250 GB ราคาไม่ถึงพันบาทก็มีหลากหลายรุ่นคุ้มค่า และเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดแนะนำให้เป็น NVMe SSD และระบบ Switch Hub + LAN ของ Diskless Server มีความเร็ว 10 Gbps ขึ้นไป

วิธีการเปิด Local Cache ให้ Modify workstation แก้ไขการตั้งค่าเครื่องลูกแบบในรูปได้เลย

Auto เป็นการเปิดใช้ Ram Cache โดยดูจากขนาด Ram เครื่องลูกที่มีโดยอัตโนมัติ

Disable ปิดการใช้ระบบ Local Cache

Local disk เป็นการเปิดใช้ Cache โดยจะใช้ SSD ที่ติดตั้งในเครื่องลูกมาใช้งาน

xxx MB เลือกขนาด Ram Cache ตามที่ต้องการด้วยตนเอง

วิธีดูว่าการเปิดใช้ SSD Local cache สำเร็จหรือไม่ ให้ดู Write Amount ในหน้า Workstations เครื่องลูก

ถ้าสำเร็จจะมีขนาด 0B ตลอดเวลาในการใช้งานเครื่องลูกนั้น ๆ

ถ้าเป็น Ram Cache หรือ อื่น ๆ จะมีค่า Write Amount ตามปกติในวงสีแดง

รูปความเร็วเมื่อใช้งาน SSD ทำเป็น Local Cache

ทดสอบความเร็วที่เครื่องลูกโดยใช้ไฟล์ขนาดใหญ่ 10 GB ในการทดสอบพบกว่าได้ความเร็วสูงมาก ลื่นไหลกว่าการใช้ Speed LAN เพียงอย่างเดียว

รูปความเร็วเมื่อใช้งาน Ram ทำเป็น Local Cache

ทดสอบความเร็วที่เครื่องลูกโดยใช้ไฟล์ขนาดใหญ่ 10 GB ในการทดสอบพบกว่าได้ความเร็วปกติ ลื่นไหลกว่าการใช้ Speed LAN เพียงอย่างเดียว

แต่ก็ยังช้ากว่า SSD ในกรณีที่ไฟล์ขนาดใหญ่ถึง 10 GB

รูปความเร็วเมื่อใช้งาน Ram ทำเป็น Local Cache

ทดสอบความเร็วที่เครื่องลูกโดยใช้ไฟล์ขนาดเล็ก 1 GB ในการทดสอบพบกว่าได้ความเร็วสูงมาก ลื่นไหลกว่าการใช้ Speed LAN เพียงอย่างเดียว หรือ SSD Local Cache ด้วยซ้ำ

สรุปได้ว่า Ram Local Cache เหมาะสำหรับไฟล์ที่มีขนาดเล็ก 1GB ในชั่วระยะเวลาสั่น ๆ หากไฟล์ขนาดใหญ่ 10GB ขึ้นไป ยังสู้การใช้งาน SSD Local Cache ไม่ได้ ที่จะเหมาะสมกว่า

รูปความเร็วเมื่อ Disable การใช้งาน Local Cache

ทดสอบความเร็วที่เครื่องลูกโดยใช้ไฟล์ขนาดเล็ก 1 GB ในการทดสอบพบกว่าได้ความเร็วต่ำที่สุด ซึ่งเป็นการใช้ Speed จาก LAN Network เพียงอย่างเดียว ซึ่งไม่เพียงพอกับการใช้งานในปัจจุบันี้ ที่มี Internet ความเร็วสูงมาก 1000 Mbps และขนาดของเกมที่ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ 100 GB +

หากมีปัญหาในการใช้งาน SSD Cache แนะนำให้ใช้คำสั่ง diskpart เพื่อเคลียร์ข้อมูล SSD ก่อนใช้งาน

1. เข้า cmd พิมพ์คำสั่ง diskpart และตามด้วย list disk

2. จะปรากฏรายการ Disk ที่มีในเครื่องให้หาตำแหน่ง Disk ที่เป็น SSD ให้ถูกต้อง

3. เมื่อเจอ Disk ที่ถูกต้องแล้วให้ใส่คำสั่ง select disk 0 (ในตัวอย่างนี้ SSD อยู่ตำแหน่ง disk 0 แต่ละร้านอาจจะตำแหน่ง disk เป็นอย่างอื่น ไม่เหมือนกัน)

4. ใช้คำสั่ง clean เพื่อล้างข้อมูลใน ssd ทั้งหมด หากสำเร็จจะขึ้นว่า succeeded

หากใช้คำสั่ง diskpart แล้วระบบ SSD Cache ยังไม่ทำงาน แนะนำให้ใช้ http://www.lowlevelformat.info

(SSD ส่วนใหญ่แค่คำสั่ง diskpart > clean ปกติก็จะใช้งานระบบ Local SSD Cache ได้เลย)

(ในอาการแบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็น SSD เก่าหรือถูกใช้งานมาเป็นเวลานานสักพักจำเป็นต้องใช้ Tool ตัวนี้แก้ไขอาการ SSD)

Hard Disk Sentinel เป็นโปรแกรมอีกตัวที่ไว้ตรวจสุขภาพของ SSD ให้เราสังเกตที่ค่า Health ของ SSD แต่ละลูกว่าขึ้นเครื่องหมายตกใจสีเหลืองหรือสีแดงหรือไม่ หากขึ้นเครื่องหมายตกใจแนะนำให้เปลี่ยน SSD ทันทีไม่ควรนำมาใช้งานต่อ

SSD แต่ละรุ่นจะมีค่า Endurance Rating ไม่เท่ากันส่วนใหญ่รุ่นราคาสูงจะทนทานกว่าในเรื่องของ การเขียนซ้ำของข้อมูลลงบน SSD ถ้าค่า Endurance Rating ต่ำจะส่งผลให้ SSD ลูกนั้นทนการเขียนซ้ำ ได้น้อยซึ่งส่งผลทำให้ค่า Health ลดลงอย่างรวดเร็วทำให้อายุการใช้งานสั้นลง เราควรใส่ใจค่า Endurance Rating เฉพาะ SSD ลูกที่จะทำหน้าที่เป็น Writeback บนเครื่อง Diskless Server เท่านั้น

ส่วน SSD พวก Windows / Image / Game อาจจะไม่ต้องใส่ใจค่า Endurance Rating มากนัก รวมถึง SSD ที่จะมาทำ Local Cache ในเครื่องลูกก็ไม่ต้องใส่ใจ Endurance Rating เพราะเป็นการใช้งาน เพียงเครื่องเดียวและส่วนใหญ่จะเป็นการอ่านมากกว่าเขียนข้อมูล และไม่มีการเขียนซ้ำจนทำงานหนัก เหมือน SSD Writeback บนเครื่อง Diskless Server

ขนาดที่แนะนำสำหรับ SSD Local Cache ใส่เครื่องลูกคือ 250 GB ขึ้นไปเพราะค่า Health หรือ Lifetime จะเยอะกว่าขนาด 120 GB เท่าตัว อายุในการใช้งานจะยาวนานกว่า และราคาก็คุ้มค่ากว่ามาก

Last updated